ไหมพรมและเส้นด้ายย้อมมือที่ไม่มีไจไหนเหมือนกันเลยของ Manos del Uruguay
องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ยืนระยะมาถึง 54 ปี
ในวันที่โลกเรียกร้องให้เราทั้งเก่ง ดี รวย ไม่เพียงแต่เราในฐานะบุคคลเท่านั้นที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการดำรงชีวิต หากแต่ธุรกิจต่างๆ ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ ต่างก็ต้องปรับตัวกันไม่น้อย เพื่อให้ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง การทำธุรกิจที่สร้างผลกระทบทางสังคมเชิงบวกจึงเป็นที่สนใจของคนรุ่นใหม่จนแทบเรียกได้ว่าเป็น new standard (มาตรฐานใหม่) ของการทำธุรกิจ
แต่การทำธุรกิจที่ต้องสร้างสมดุลทั้งทำดีและเติบโตในแง่ธุรกิจก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงอยากสำรวจแบรนด์ที่ทั้งเก่ง ทั้งดี และอยู่รอดในด้านการเงิน ที่สามารถยืนระยะได้มาเล่าสู่กันฟัง และวันนี้อยากมาเล่าถึงแบรนด์หนึ่งที่อยู่ไกลถึงอุรุกวัย (ชื่อทางการว่า สาธารณรัฐโอเรียนทัลอุรุกวัย) อย่าง “Manos del Uruguay” ซึ่งใครที่ชอบทำงานฝีมืออย่างการถักนิตติ้งหรือถักไหมพรมน่าจะพอคุ้นเคยกันดี โดย Manos del Uruguay เป็น Not for profit organization หรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่ปัจจุบันขายทั้งไหมพรม เส้นด้ายย้อมมือ รวมไปถึงเสื้อผ้าสำเร็จรูปจากไหมพรมและเส้นด้ายเหล่านี้ซึ่งถูกส่งออกไปขายยังทั่วโลก
Manos del Uruguay ได้ถือกำเนิดใน ค.ศ. 1968 หรือ พ.ศ. 2511 ด้วยความตั้งใจว่าอยากจะช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของผู้หญิงชาวอุรุกวัยให้พึ่งพาตัวเองได้ในด้านรายได้ การเสริมสร้างทักษะการย้อมและทอผ้าแบบดั้งเดิม รวมถึงการสร้างงานในท้องถิ่นทำให้ไม่ต้องทิ้งบ้านไปทำงานในเมือง
ปัจจุบัน Manos del Uruguay กระจายตัวอยู่ในประมาณ 12 ชุมชนทั่วอุรุกวัย สร้างงานให้กับช่างฝีมือราวๆ 400 คน และสร้างรายได้ราวๆ ปีละ 150 ล้านบาท (4.5-5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี)
วันเวลาผ่านมา 54 ปีได้พิสูจน์แล้วว่าการทำธุรกิจที่ควบคู่ไปกับการสร้างผลกระทบทางสังคมที่ดีสามารถทำได้อย่างยั่งยืน และนี่คือ 4 เหตุผลที่เราแอบชื่นชม Manos del Uruguay ที่นำพาแบรนด์มาได้ไกลถึง 50 กว่าปีแล้ว
“ทำดีได้ ขายได้ด้วย”
ไม่ใช่แค่เป็นแบรนด์ที่สร้างสรรค์สังคม แต่ผลิตภัณฑ์ของ Manos del Uruguay ตอบโจทย์ทั้งความสวยและการใช้งาน ตัวไหมพรมและเส้นด้ายที่ขายมีความหลากหลายของรูปแบบ ทั้งขนาด สี และบอกรายละเอียดการใช้งานไว้ครบครันเสร็จสรรพ ทำให้ผลิตภัณฑ์เกิดการใช้งานที่ตรงความต้องการ การออกแบบเสื้อผ้าพร้อมใส่ที่มีรสนิยมและออกเป็น collection ไม่ต่างจากแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ
“คุณภาพก็ดี มาตรฐานก็มา”
Manos del Uruguay ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ องค์กรแฟร์เทรดโลก (WFTO – World Fair Trade Organisation) ตั้งแต่ พ.ศ. 2552 เพื่อการันตีว่าการจัดสรรปันส่วนค่าตอบแทนจะเป็นไปอย่างเป็นธรรม ส่วนมาตรฐานของสินค้าย้อมมือที่ยังไงก็ไม่มีทางทำให้สีออกมาเหมือนกันได้ทุกรอบ ทางแบรนด์จึงแก้เกมอย่างน่ารักๆ ด้วยการบอกว่าไหมทุกไจที่ออกจาก Manos del Uruguay ล้วนมีแค่ไจเดียว เพราะไม่มีไหมหรือเส้นด้ายไจไหนเลยที่ซ้ำกัน (No two skeins are the same, each one is unique.) กลายเป็นจุดขายที่ทำให้ไหมและด้ายแต่ละไจมีคุณค่าในตัวเอง
“Co-creation”
ผลิตภัณฑ์ของ Manos del Uruguay ถูกกระจายการผลิตอยู่ใน 12 ชุมชนทั่วอุรุกวัย แต่ที่น่ารักคือไม่ใช่เป็นการทำงานแบบต่างคนต่างทำ แต่พวกเขามีการทำงานร่วมกัน โดยจะมี 2 ชุมชนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่ย้อมเส้นด้ายและเส้นไหมพรม ส่วนอีก 10 ชุมชนที่เหลือจะรอรับเส้นด้ายเพื่อนำไปทอเป็นผ้าหรือนำไปถักเป็นเสื้อผ้าต่อไป ทำให้การทำงานไม่ได้เหงาๆ แค่ในชุมชนตัวเอง นอกจากนั้นทีมผู้บริหารก็มาจากการส่งตัวแทนของช่างฝีมือในชุมชนต่างๆ เข้ามาร่วมกันตัดสินใจ ทำให้เป็นแบรนด์ที่มีส่วนร่วมจากทุกคนอย่างแท้จริง
“พัฒนาต่อเนื่อง”
จากคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ดีที่ทำให้ Manos del Uruguay ถูกชวนให้ร่วมงานหรือถูกใช้เป็นส่วนประกอบกับแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ เช่น Polo Ralph Lauren, Marc Jacobs, Coach, Stella McCartney และอีกมากมาย ไม่ใช่แค่เพิ่ม awareness ให้กับแบรนด์เท่านั้น แต่การได้ร่วมงานกับแบรนด์ระดับโลกทำให้ Manos del Uruguay ได้เรียนรู้มาตรฐานของสินค้าที่ดี รวมถึงเป็นแรงกระตุ้นให้แบรนด์ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ตอบรับกับความต้องการการใช้งานของลูกค้า
เรื่อง : สุธาสินา เชาว์เลิศเสนา
ข้อมูล :
- https://manos.uy/
- https://wfto.com/jointhebusinessrevolution/manosdeluruguay.html
- https://www.yarn.com/categories/manos-del-uruguay-yarn
- https://www.uruguayxxi.gub.uy/en/buyer-catalog/manos-del-uruguay/
- https://morrisandsons.com.au/collections/manos-del-uruguay
ภาพจาก : https://www.facebook.com/manosdeluruguay/