ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากพบว่าช่วงหลัง เทรนด์การทำขนมจะยิ่งดูจับต้องได้ง่ายมากขึ้น ถึงแม้ว่าการทำขนมไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เป็นศาสตร์ที่นับว่าต้องใช้ความละเอียดแม่นยำสูง จะอาศัยครูพักลักจำก็ได้ แต่สูตรการทำขนมจะมีโครงสร้างที่ชัดเจนอยู่แล้วในตัวของมันเอง เพราะถ้าเกิดสูตรขนมคลาดเคลื่อน รสชาติอาจผิดเพี้ยนได้เลย แต่ไม่ว่าอย่างไร ตัวช่วยที่ทำให้ค้นพบว่าการทำขนมนั้นใช่ทางของเราแล้วหรือเปล่า คือการลุกขึ้นมาทำและพร้อมมีใจให้จะยิ่งดี
เหมือนกับที่ ‘โจ้–จักรพงศ์ บุญวรรโณ’ ค้นพบตัวเองในเวลาอันรวดเร็วว่าการทำขนมคือสิ่งที่สนุกและตอบโจทย์ชีวิตได้ เท้าความก่อนว่า โจ้เรียนจบด้านการตลาด ที่ไม่สนุกกับการทำงานประจำ ใช้ชีวิตทดลองทำงานนู่นนี่ไปเรื่อย จนได้เข้าไปอยู่ในโลกของการทำขนมปังอย่างสมใจ สุดท้ายค้นพบว่าการทำขนมเงียบๆ ได้ใช้เวลากับตัวเอง อยู่หน้าเตาอบที่มีอุณหภูมิร้อนฉ่า คือนิยามความสุขเล็กๆ ของเขา
โจ้ คือคนทำขนมมือหลักให้กับร้าน ‘Lorem Ipsum’ (ย้อนอ่าน Lorem Ipsum ได้ที่ https://shorturl.asia/50Xmv) และอีกคนคือ นุ่น จะรับหน้าที่ดูแลภาพรวมของร้านและขนมให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนั้นอีกบทบาทหนึ่งของโจ้จะเป็นคนทำขนมและส่งขนมให้กับคาเฟ่อื่นด้วย
สำหรับขนมที่วางขายเป็นตัวยืนพื้นของร้าน Lorem Ipsum คือ ‘ครัวซองต์’ และ ‘บริออช’ โจ้เล่าว่า โจทย์แรกที่คุยกับทีมคือ อยากให้มีเอกลักษณ์เฉพาะของร้าน ทีมก็อยากให้คิดขนมมาวางขาย อีกอย่างคือที่ร้านไม่ได้ติดแอร์ ขนมที่เลือกมาวางขายก็ต้องรับกับอุณหภูมิปกติได้ ซึ่งครัวซองต์และบริออชเป็นขนมที่ตอบโจทย์กับร้านที่สุด ที่สำคัญคือต้องคิดเผื่อเรื่อง Shelf Life (อายุการเก็บของผลิตภัณฑ์) ด้วยอีกที
ต่อมาถ้าถามว่าทำไมคาเฟ่ส่วนใหญ่ถึงนิยมวางขายครัวซองต์เป็นเมนหลัก โจ้มองว่าเป็นเทรนด์มาแรงในช่วงปีที่แล้ว แค่อยากลองทำขนมที่ในตอนนั้นตลาดยังไม่ค่อยบูม ก่อนหน้านี้คาเฟ่จะมีแต่เค้ก จนช่วงหลังเริ่มมีเค้กแบบฉบับญี่ปุ่น เกาหลี และเริ่มเอนไปทางสัญชาติตะวันตกมากขึ้น แต่เมื่อจู่ๆ เทรนด์ครัวซองต์บูมขึ้นมา คิดว่าคนอื่นน่าจะมองจุดเดียวกัน ว่าในช่วงแรกยังมีคนทำได้น้อย เจ้าใหญ่ๆ ในประเทศก็เริ่มไต่สู่ระดับอุตสาหกรรมมากขึ้นเพื่อทำส่งขายทั่วประเทศ ตรงนี้อาจเป็นจุดที่ทำให้มีครัวซองต์อยู่แทบทุกร้าน
ส่วนสาเหตุที่ครัวซองต์มีคนทำไม่เยอะมาก นั่นก็เพราะครัวซองต์เป็นขนมที่ทำค่อนข้างยาก โดยเฉพาะการควบคุมอุณหภูมิในห้องให้อยู่ที่ประมาณยี่สิบองศาฯ โจ้บอกว่าขนมครัวซองต์ที่วางขายในร้าน Lorem Ipsum จะใช้ยีสต์ธรรมชาติผสมด้วย ความยากในการทำครัวซองต์เลยมีข้อจำกัดหลายอย่างเพิ่มเข้าไปอีก ตั้งแต่การนวดแป้ง ทั้งเรื่องของเวลา กระบวนการผลิต กว่าจะได้เข้าเตาอบก็กินเวลาไปสองวัน แต่ความยากนี้จะให้รสชาติที่ซับซ้อนเฉพาะตัว รูปทรงของขนมครัวซองต์ดูมีมิติ และมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมี ‘บริออช’ ที่โจ้บอกว่าทำยากเหมือนกัน ด้วยโครงสร้างของขนมที่รับน้ำหนักของเนยและไข่ในปริมาณสูงลิบ จึงต้องกะส่วนผสมให้ได้แม่นยำเพื่อคงรสชาติตามสูตร
พอลองถอยออกมามองดูดีๆ คำว่า ‘ยาก’ น่าจะโดนความตั้งใจของโจ้กรุยทางไปหมดแล้ว แม้จะมีบางช่วงที่โจ้พูดติดตลกว่าการทำขนมถ้าจะให้ดีก็อยากจ้างคนอื่นทำเหมือนกัน แต่จะไปถึงจุดนั้นคงต้องมีฐานลูกค้าที่เยอะให้ได้ก่อน
ส่วนโปรเจกต์ต่อไปหลังจากปรับปรุงร้าน Lorem Ipsum ที่จะมีพื้นที่นั่งตากแอร์เย็นฉ่ำได้นั้น ทางทีมจึงคิดกันว่าจะมีการเพิ่มเมนูฝั่งขนมมาวางขายเป็นตัวเลือกให้ลูกค้ามากขึ้น รอติดตามได้ที่เฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ‘Lorem Ipsum’ กันได้
นอกจากนี้ โจ้ยังมีแบรนด์ขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติเป็นของตัวเองด้วยนะ ถึงจะไม่ค่อยมีเวลาอัปเดตหน้าเพจแบรนด์ขนมของตัวเองแต่ลูกค้ายังอินบ็อกซ์สั่งกันให้พรึ่บ อยากลองอย่าช้า…ไปสั่งได้ที่เฟซบุ๊กเพจ ‘KneadBreadHatyai’ ใครที่เป็นสายขนมปัง Sourdough พลาดไม่ได้เลย
ภาพ : จักรพงศ์ บุญวรรโณ