
ศาลฎีกาสหรัฐฯ กลับคำตัดสินในคดี Roe v. Wade ที่ระบุว่าการทำแท้งเป็นสิทธิของผู้หญิงตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ทุกรัฐต้องยึดถือหลักการดังกล่าวมายาวนาน 50 ปีแล้ว
คำวินิจฉัยของศาลฎีการะบุว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ “มิได้รับรองสิทธิในการทำแท้ง” และ “อำนาจในการกำกับดูแลการทำแท้งจะกลับคืนไปสู่ประชาชน และผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง” นั่นหมายความว่า แต่ละรัฐในสหรัฐฯ สามารถตราบัญญัติในกรณีนี้ได้เอง ว่าจะให้การทำแท้งถูกหรือผิดกฎหมาย
คำตัดสินในครั้งนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เพราะทำให้ผู้หญิงหลายล้านคนทั่วสหรัฐฯ สูญเสียสิทธิในการทำแท้งตามกฎหมายที่มีมา 50 ปีไปในทันที และต้องรอว่าแต่ละรัฐจะมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร โดยเฉพาะรัฐที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า เป็นวันอันน่าเศร้าเหลือเกิน เพราะคำตัดสินทำให้สุขภาพและชีวิตผู้หญิงในประเทศต้องตกอยู่ในอันตราย
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม สำนักข่าวออนไลน์แห่งหนึ่งได้เผยแพร่เอกสารที่ระบุว่า เป็นร่างคำพิพากษาในครั้งนี้ โดยผู้พิพากษาเสียงข้างมากเห็นชอบให้กลับคำตัดสินเมื่อ 50 ปีก่อน
ทั้งนี้ บริเวณภายนอกที่ทำการศาลฎีกา ได้มีทั้งกลุ่มต่อต้านและสนับสนุนการทำแท้งจำนวนมากมารวมตัวกันแสดงพลัง คำตัดสินครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะของฝ่าย pro-life หรือคัดค้านการทำแท้ง เหนือฝ่าย pro-choice หรือฝ่ายสนับสนุนการทำแท้ง ที่ต่อสู้กันมายาวนานหลายทศวรรษ
ภาพจาก : https://unsplash.com/photos/g5ZI__7MwMw
ข้อมูลจาก : https://www.bbc.com/news/live/world-us-canada-61709865