
หนังสติ๊กพร้อม กระสุนพร้อม! แล้วออกเดินทางไปยิงเมล็ดพันธุ์ หนึ่งในกิจกรรมอาสาปลูกป่าในประเทศไทย ที่มีตัวเอกสำคัญคือ กระสุนดินที่บรรจุเมล็ดพืชอยู่ข้างใน รู้จักกันในชื่อ “ซี้ดบอมบ์” (Seed Bomb)
ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างสร้างคอนเทนต์ด้วยฮาวทูทำซี้ดบอมบ์ แต่ละคนต่างงัดสูตรไม่ซ้ำเพื่อสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง แถมยังมีเวิร์กช็อปให้เข้าร่วมกิจกรรมกันทั่วไป ที่แม้แต่เด็กๆ ก็ร่วมสนุกและมีส่วนในการสร้างพื้นที่สีเขียวได้
แต่ใครรู้บ้างว่าก้อนดินที่เราเห็นนี้ มีเรื่องราวเก่าแก่ซ่อนอยู่เบื้องหลังด้วย
ในยุคอียิปต์โบราณ มีการใช้ก้อนดินเมล็ดพันธุ์นี้เพื่อฟื้นฟูที่ดินทำกินหลังจากน้ำท่วมประจำปีบริเวณแม่น้ำไนล์ ก่อนที่จะเริ่มดังในช่วงที่มาซาโนบุ ฟุกุโอกะ (Masanobu Fukuoka) มีชีวิตอยู่ในฐานะเกษตรกรธรรมชาติ (Natural Farmer) ในช่วงปี 1938
ฟุกุโอกะทำเกษตรแบบไม่ต้องทำอะไร คือปล่อยให้ธรรมชาติเป็นไป อย่างการไม่ไถพรวนดิน ไม่กำจัดวัชพืช ไม่จำกัดโรคและแมลงศัตรูพืช รวมถึงไม่ใช้ปุ๋ยบางชนิดด้วย ความรู้เหล่านี้ถูกบรรจุอยู่ในหนังสือ ปฏิวัติยุคสมัยด้วยฟางเส้นเดียว หรือ The One Straw Revolution ที่เขาเป็นคนเขียนขึ้น

อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนจดจำเกี่ยวกับเขาได้ก็คือ ดังโงะดิน (Tsuchi Dango) หรือเกี๊ยวดิน (Earth Dumpling) ซึ่งเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการทำการเกษตรแบบธรรมชาติของฟุกุโอกะ โดยเขาจะเอาดินเหนียว ปุ๋ยคอก และเมล็ดพืชผสมกันแล้วปั้นก้อนดินเป็นลูกกลม ๆ พร้อมจะไปโยนริมฝั่งน้ำ ข้างถนน หรือที่ดินรกร้างไร้เจ้าของ แล้วปล่อยให้มันงอกออกมาเองตามธรรมชาติ โดยมีดินเหนียวคอยห่อหุ้มช่วยรักษาความชุ่มชื้นและป้องกันเมล็ดให้รอดปลอดภัยจากสัตว์ป่าจนกว่าจะงอกงาม
ดังโงะดิน หรือ ซี้ดบอมบ์ จะบรรจุเมล็ดพันธุ์อะไรก็ได้ที่ต้องการจะปลูก แต่สำหรับฟุกุโอกะแล้ว เขาจะเน้นไปที่พืชผัก เช่น ไชเท้าญี่ปุ่น แคร์รอต โกโบ (ผักกินรากของญี่ปุ่น) หัวหอมใหญ่ และหัวผักกาด เพื่อตอบโจทย์ความเป็นเกษตรกรของตัวเอง

ต่อมาในช่วง 1973 ที่เขตโลเวอร์ อีสต์ ไซด์ แมนฮัตตัน ก้อนดินนี้ก็ปรากฏอีกครั้งในการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ แม้จะดูรุนแรง เพราะเป็นการบุกรุกในพื้นที่ผิดกฎหมายแต่ก็เพื่อสร้างสวนสีเขียวเล็ก ๆ ที่จะกลายเป็นประโยชน์ต่อเมืองในภายหลัง
ลิซ คริสตี้ (Liz Christy) พลเมืองผู้ขับเคลื่อนการทำสวนแบบกองโจร หรือ Guerrilla Gardening ในนาม Green Guerrilla ได้เปลี่ยนพื้นที่ทิ้งร้างเต็มไปด้วยขยะ ไร้เจ้าของ ให้กลายเป็นผืนดินและสวนเล็ก ๆ ผ่านการทำซี้ดบอมบ์สไตล์นิวยอร์กเกอร์ แล้วโยนข้ามรั้วเข้าไปในเขตต้องห้ามเหล่านั้น
ในปีถัดมา เพื่อให้สวนนี้ถูกฎหมายแก๊งสวนกองโจรต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินเป็นจำนวน 1 เหรียญ ที่สุดท้ายก็กลายเป็นสวนบาวเวอรี่ ฮูสตัน (Bowery Houston Garden) สวนชุมชนแห่งแรกในนิวยอร์กซิตี้ที่เก่าแก่ที่สุดด้วย พื้นที่ของชุมชนแห่งนี้เปิดให้ผู้คนที่อาศัยรอบ ๆ เข้ามาใช้ร่วมกันเป็นที่เพาะปลูก ทำเวิร์กช็อป และเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับชาวสวนในเมือง
10 กว่าปีผ่านไป ไอเดียการสร้างสวนชุมชนจากพื้นที่ทิ้งร้างก็เพิ่มขึ้นกว่าพันแห่งทั่วเมืองนิวยอร์ก สร้างแหล่งอาหาร พื้นที่สีเขียว และกิจกรรมให้กับคนในชุมชนได้เป็นอย่างดี
แม้ในบริบทบ้านเราจะเป็นแนวทางการปลูกป่า ด้วยการเป็นอาสาสมัครยิงเมล็ดพันธุ์แบบชาวบ้านด้วยหนังสติ๊ก แต่ก็ไม่ทิ้งจุดประสงค์หลักของการทำซี้ดบอมบ์ นั่นก็คือ การหว่านเมล็ดพันธุ์แบบปล่อยให้งอกขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปขุดพรวนดินเช่นการปลูกต้นไม้ทั่วไป ร่นแรงและเวลาในพื้นที่เข้าถึงยาก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนโลกในขั้นตอนที่ง่ายที่สุด

ปัจจุบัน ไอเดียการทำซี้ดบอมบ์ถูกพัฒนาให้เข้ากับยุคสมัย โดยบรรดาเทคสตาร์ตอัปคิดค้นการพาก้อนเมล็ดพันธุ์นับพันนับหมื่นไปปล่อยในพื้นที่ห่างไกล โดยการบรรจุในแคปซูลที่ติดไปกับโดรน กลายเป็นอีกหนทางในการช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าไม้ในที่มนุษย์เข้าถึงยากได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพขึ้น
สูตรและฮาวทูการทำซี้ดบอมบ์บนโลกออนไลน์มีเยอะจนตาลาย แถมมีไอเดียแปลก ๆ เช่น แคปซูลยาเมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ใส่ลูกโป่ง แต่ถ้าเป็นสูตรคลาสสิกฮอตฮิตตลอดกาลแบบฟุกุโอกะก็จะมีส่วนผสมหลัก ๆ อยู่ 3 อย่าง คือ ดินเหนียว ปุ๋ยหมัก และเมล็ดพันธุ์
โดยผสมกันในอัตราส่วน 5:3:1 (ไม่ต้องเป๊ะมากก็ใช้ได้) คลุก ๆ ส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ รอให้แห้ง แล้วพร้อมใช้งาน หรือจะปั้นดินเหนียวให้เป็นแผ่นก่อนคลุกกับปุ๋ย แล้วค่อยยัดเมล็ดไว้ตรงกลางก็ได้
บางสูตรก็จะมีการเติมกากกาแฟเพื่อไล่แมลง หากไม่มีดินก็สามารถใช้กระดาษรีไซเคิลทดแทนได้ ด้วยการนำไปปั่นใส่น้ำ บีบน้ำออกแล้วปั้นเป็นก้อน หรือสูตรของนิวยอร์กเกอร์ แก๊งสวนกองโจร ก็จะเป็นน้ำ พีทมอส ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์ ใส่ไปในลูกโป่งหรือลูกบอลแต่งต้นคริสต์มาส แล้วเขย่า ๆ ให้เข้ากันก่อนจะโยนข้ามรั้วไปยังที่ที่ต้องการให้เมล็ดงอก
แต่ไม่ว่าจะใช้สูตรไหน ที่สำคัญก็คือควรเลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่เราจะส่งมันไปอยู่ ก้อนเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ เหล่านี้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังสีเขียว ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ภาพจาก :
ข้อมูลจาก :
- วิดีโอ how radical gardeners took back New York City โดย Vox
https://www.guerrillagardening.org/ggseedbombs.html - บทความ The History Of The Seed Bomb
http://www.guerrillagardening.org/tips/seedgrenadekit.pdf
https://www.greenguerillas.org/history - วิดีโอ How Drones are Helping to Plant Trees – A Cleaner Future โดย Mashable