แน่นอนว่า เทคโนโลยีมีส่วนทำให้ผู้คนใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดเวลามากขึ้น และในมุมมองบริการธุรกิจและระบบอุตสาหกรรม โดยตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาที่เข้าสู่ยุคการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างจริงจัง ทำให้ระบบอุตสาหกรรมต่างๆ มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมทัพ เพื่อเอื้อให้การผลิตของต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น เพิ่มความสามารถในการผลิตของได้ครั้งละมากๆ  ลดจำนวนคนทำงานเพื่อควบคุมต้นทุน ควบคุมผลลัพธ์และคุณภาพของงานได้อย่างเบ็ดเสร็จ นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ ก็ยังส่งผลไปถึงอุตสาหกรรมงานฝีมือต่างๆ ด้วยเช่นกัน เช่นการเปิดพื้นที่ให้ชาวคราฟต์ได้ทดลองสร้างสรรค์ผลงานด้วยกระบวนการใหม่ และลดข้อจำกัดต่างๆลง 

ซึ่งเมื่อมีคำว่า digital นำหน้า กระบวนการผลิตที่ใช้มือ (craftmanship) ก็เริ่มหดหายไปเช่นกัน เช่น จากการขึ้นรูปด้วยมือ ถูกแทนที่ด้วยการใช้เครื่อง 3D printer หรือการทอ สาน ทีละส่วน ทีละผืน ก็ถูกแทนที่ด้วยแนวคิด Digital Fabrication เสียงของกระบวนการเหล่านี้จึงกำลังเริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เลยอยากชวนฟังเสียงและเรื่องราวของ 3 ช่างฝีมือในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ 

1. ช่างจิวเวลรี่ – เครื่องประดับในย่านบ้านหม้อ 

โดยคุณในพื้นที่ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว มีช่างจิวเวลรี่และช่างประกอบชิ้นส่วนเครื่องประดับต่างๆ เข้ามาทำงานวันละเกือบ 100 คน แบ่งการทำงานเป็นกะ เกือบตลอด 24 ชั่วโมง โดยงานของช่างฝีมือกลุ่มนี้ เป็นงานที่ละเอียดอ่อน ต้องใช้สายตาในการกะเกณฑ์ ใช้มือในการขึ้นรูป ใช้ขาและมือประสานพร้อมๆ กัน เพื่อให้เครื่องทำความร้อนมีจังหวะที่หลอมละลายส่วนของเครื่องประดับในระดับที่พอดี และยังต้องใช้ความชำนาญที่สั่งสมมานานเพื่อสร้างสรรค์จิวเวลรี่ เครื่องประดับ หรือแหวนเพชรที่ดีที่สุดให้กับผู้สวมใส่
.
โดยในปัจจุบัน ย่านนี้ยังมีช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญทำงานอยู่ แต่เหลือจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับหลายปีก่อน โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น การเรียนรู้ที่ใช้เวลา ความอดทน การใช้เครื่องจักรแทนช่างฝีมือ ไปจนถึงความต้องการทางตลาดที่ลดลง โดยเฉพาะในช่วงโควิด-19
ลองฟังเสียงกระบวนการทำจิวเวลรี่ด้วยมือ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=kb57Q14slJE

2. ช่างตีบาตรพระ – บ้านบาตร 

งานตีบาตรพระ เป็นงานที่ต้องใช้ความอุตสาหะและความรักในการทำงานค่อนข้างมาก เนื่องจากกระบวนการตีบาตรแต่ละชิ้นนั้น ต้องใช้ทั้งแรงกาย สายตา ความเชี่ยวชาญ รวมถึงความสามัคคีของคนในชุมชน เพราะบาตรพระแต่ละส่วน มาจากช่างตีแต่ละบ้าน ง่ายๆ ว่า ส่วนไหนใครเชี่ยวชาญ ก็จะตีแค่ส่วนนั้น แล้วค่อยนำมาประกอบกันเป็นบาตรพระ ทำให้บาตรพระที่ตีขึ้นด้วยมือนี้ มีความหนา แข็งแรง ทนทาน ใช้ได้นานหลายปี

ในปัจจุบัน ชาวบ้านในชุมชนนี้ก็ยังคงตีบาตรกันแทบทุกวัน และได้เปิดพื้นที่ให้คนที่สนใจเข้าไปเรียนรู้ ดูวิธีการ หรือซื้อบาตรพระขนาดจิ๋วเป็นของฝากได้อีกด้วย ดังนั้นหากมีโอกาสไปแถวนั้น ลองเงี่ยหูฟังเสียง เก๊งๆๆๆๆ ของค้อนที่กระทบกับแผ่นเหล็กให้ดี เพราะหากได้ยินเสียงนี้ แปลว่าคุณเดินทางมาถึงชุมชนแล้ว และนอกจากเสียงตีชิ้นส่วนของบาตรนี้แล้ว เสียงของบาตรพระที่เสร็จสมบูรณ์แล้วก็น่าฟังไม่แพ้กัน เพราะเป็นสียงที่ดังและก้องกังวาล ซึ่งทีมเราเองก็ได้ค้นพบเช่นกันว่าเสียงของบาตรพระตีมือกับบาตรพระที่ปั๊มโรงงาน เสียงที่ได้ยินจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ลองฟังเสียงกระบวนการตีบาตรพระ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=EV_-w0PIZ4U&t=2s

3. ช่างไม้ – บริเวณวัดสระเกศ

อีกหนึ่งสายงานช่างฝีมือในย่านกรุงเก่า คือ เสียงของช่างงานไม้ บริเวณวัดภูเขาทอง
บริเวณนี้เต็มไปด้วยร้านค้าที่ขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ ตั้งแต่ ประตูไม้ลวดลายต่างๆ บานพับ หน้าต่างไม้ ไปจนถึงของใช้ขนาดเล็ก โดยทางทีมก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับร้านในย่าน ซึ่งพบว่า มีเพียงอยู่ไม่กี่ร้านที่ยังมีการทำงานไม้อยู่ และทำมานานมากกว่า 50 ปี ดังนั้นเสียงที่เราหามาได้ ไม่ว่าจะเป็น เสียงตัดไม้ ไสไม้ กำลังจะเป็นเสียงที่หาได้ยากหรือมีโอกาสจะหายไปของย่านเมืองเก่านี้

ลองฟังเสียงช่างฝีมืองานไม้ ได้ที่ https://youtu.be/k7lPJY-HVu8

เสียงจากช่างฝีมือต่างๆ นี้ เป็นเพียงตัวแทนหนึ่งที่เราได้นำมาเล่าถึง กระบวนการของสายอาชีพที่เน้นมือทำ รวมถึงเป็นเพียงการสังเกตการณ์ของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการบริโภคของคนในปัจจุบัน และในคอลัมน์ต่อๆไป เราจะพาไปฟังเสียงช่างฝีมือจากพื้นที่อื่นๆ กัน 

ภาพ : ชยุตม์ โล่ธุวาชัย

Writer

Photographer

Related Posts

โซฟี มาร์โซ สาวน้อยขวัญใจชายหนุ่มยุค 80s

“ทรัมป์” ขวางโลก หนุน “มะกัน” ติดอาวุธสู้

ญี่ปุ่นตั้งทีมงานวิจัยเพื่อศึกษาหญิงสาวที่มีน้ำหนักน้อยกว่ามาตรฐาน

แคนาดายังเป็นประเทศสองภาษาอีกหรือไม่

ย้อนดูวิกฤตเศรษฐกิจยุค 70 ที่กำลังกลับมาซ้ำรอยเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยอีกครั้ง

ย้อนดูวิกฤตเศรษฐกิจยุค 70 ที่กำลังกลับมาซ้ำรอยเศรษฐกิจโลกและประเทศไทยอีกครั้ง

สมรสเท่าเทียม ทำไมต้องเท่าเทียม?