ผลการศึกษาของ The Instant Group ผู้ให้บริการด้านความคล่องตัวในการทำงานในประเทศอังกฤษพบว่า กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ดีที่สุดอันดับสองของโลก สำหรับคนทำงานด้วยระบบดิจิทัล หรือ Digital Nomad เพราะว่ามีความพร้อมทั้งด้านที่พักอาศัย การเชื่อมต่อสัญญาณไวไฟ การคมนาคม และอาหารการกิน โดยกรุงเทพฯ เป็นรองแค่เพียงเมืองลิสบอนในโปรตุเกสเท่านั้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่พร้อมสำหรับรูปแบบการทำงานดังกล่าว ประกอบไปด้วยรสชาติอาหาร จุดเชื่อมต่อไวไฟความเร็วสูงกว่า 15,000 จุด มีทางเลือกในการเดินทางอันหลากหลาย ทัศยภาพของเมือง สภาพอากาศ และที่พักราคาถูกเฉลี่ย 27 ปอนด์ หรือ 1,174 บาทต่อคืน (อัตราของ Airbnb)
ที่น่าสนใจก็คือ เมืองท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่ง เช่น ลอนดอน ปารีส และเวนิส ได้รับอันดับค่อนข้างต่ำ ขณะที่บางเมือง เช่น เทสซาโลนิกิ โกเธนเบิร์ก และซานโฮเซ ได้รับอันดับสูงอย่างเหลือเชื่อ
เมืองกว่าครึ่งที่ติดอันดับการประเมินใน 60 อันดับแรกนั้นอยู่ในเอเชีย เช่น โซล กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ และฮ่องกง เนื่องด้วยคนทำงานได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเดินทาง ทิวทัศน์ และอาหาร ควบคู่ไปกับการเดินทางอันสะดวกสบาย โครงสร้างพื้นฐานที่ดี และค่าครองชีพที่สามารถจ่ายได้
ทั้งนี้มีคนทำงานในแบบ Digital Nomad ในปี 2021 ทั่วโลก ราว 35 ล้านคน โดยได้รับการสนับสนุนจากความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ความต้องการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่น และวิธีการนำงานแบบไฮบริดที่เพิ่มขึ้น
ผลการศึกษายังพบว่า Digital Nomad กว่า 80 เปอร์เซ็นต์ มักอาศัยในแต่ละแห่งเป็นเวลา 3-9 เดือน และเชื่อว่าภายในปี 2035 ผู้คนนับพันล้านคนจะใช้ชีวิตและทำงานในแบบ Digital Nomad
เมื่อสำนึกในสถานที่ทำงานหรือสำนักงานเริ่มเปลี่ยนแปลง และกำลังเกิดความยืดหยุ่นในการทำงานมากยิ่งขึ้น คนจำนวนก็ยิ่งเดินทางและทำงานได้จากทุกแห่งในโลกใบนี้
ภาพ : https://unsplash.com/photos/uY0ko-QYSwg
ข้อมูล : Bangkok ranked second best city for digital nomads (bangkokpost.com)