มินิมัลลิสม์ (Minimalism) หรือ มินิมัล (Minimal) เริ่มเป็นที่คุ้นเคยกันมากขึ้น ในฐานะทางเลือกในการใช้ชีวิต ที่ลดทอนหรือละทิ้งสิ่งละอันพันละน้อยที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต หรือข้าวของที่เราไม่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน
แต่เมื่อเราคิดถึงคนผู้มีชีวิตแบบมินิมัล ก็มักจะนึกถึงคนที่ครอบครองข้าวของแต่น้อยชิ้น สวมใส่แต่เสื้อผ้าขาว-ดำ-เข้ม ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ในบ้านมีเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เฉพาะที่จำเป็นกับชีวิตเท่านั้น บ้านเลยดูโปร่งโล่งสวยงามไปอีกแบบ แต่ทั้งหมดนี้เป็น “ผลพลอยได้” ของชีวิตแบบมินิมัลเท่านั้น
หัวใจสำคัญของมินิมัลลิสม์ก็คือช่วยให้คุณพบอิสรภาพ เป็นอิสระจากความกลัวและวิตกกังวล เป็นอิสระจากการครอบงำและความผิด เป็นอิสระจากความเศร้าซึม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอิสระจากหลุมพรางของวัฒนธรรมบริโภคนิยม ที่มนุษย์สร้างขึ้นรายรอบตัวเรา ซึ่งเป็นอิสรภาพอันแท้จริง
การครอบครองหรือเป็นเจ้าของสมบัติวัตถุนั้นมิได้เป็นความผิด แต่ปัญหาอยู่ตรงที่เราให้ความหมายกับสิ่งเหล่านี้เสียจนล้นเกินไป จนมักละเลยความสำคัญของเราเอง หรือปรารถนาในสิ่งเหล่านั้นจนหลงลืมตัวเองไป หากอยากมีรถยนต์ส่วนตัวหรือบ้าน ถ้าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับตัวคุณก็มีไปเลย
เราอาจใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน แต่ยังคงดำรงวิถีมินิมัลเช่นเดียวกันได้ นั่นเป็นเพราะมินิมัลลิสม์เป็นเครื่องมือที่ช่วยขจัดชีวิตอันล้นเกิน เพื่อให้มุ่งไปสู่สิ่งสำคัญสำหรับชีวิต จนคุณได้พบความสุข ความสมหวัง และอิสรภาพ
มินิมัลลิสม์ช่วยให้เราขจัดเรื่องไร้สาระ ทำให้มีเวลามากขึ้น มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ค้นพบภารกิจของชีวิต ประสบกับเสรีภาพแท้จริง ยิ่งสร้างสรรค์แต่บริโภคน้อยลง สนใจในสุขภาพของตัวเอง เติบโตเป็นปัจเจก จนกระทั่งค้นพบความมุ่งหมายในชีวิต
ชีวิตแบบมินิมัลทำให้เราพบความสุขอันยั่งยืน และมิได้เป็นความสุขที่มาจากข้าวของวัตถุรอบกาย แต่เป็นความสุขที่เกิดจากชีวิตของตัวเองโดยแท้ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่จะกำหนดเอาเองว่า อะไรคือสิ่งจำเป็นหรือไม่จำเป็นในชีวิต
เรื่อง : ธนัย เจริญกุล
ภาพ : Photo by tu tu https://unsplash.com/photos/QZGQO3NvsLo