กระแสสายบุญในไทยไม่เคยเสื่อมคลายว่าไหมครับ โดยเฉพาะทำบุญปล่อยสัตว์นี่ ทำกันจังเลย ปล่อยแล้วก็ไม่ได้ตามไปดูว่าสัตว์ที่เราปล่อยนั้นจะสบายดีไหม ไปทางไหน จะอยู่อย่างไร หรือไปกับใครอีกหรือเปล่า เรียกได้ว่าเอาบุญมาบังตา หารู้ไม่ว่าบางครั้งสัตว์ที่เราปล่อยนั้น ไม่ได้เหมาะสมกับการนำไปปล่อยเลย โดยเฉพาะสัตว์อายุยืนมากอย่างเต่า ที่เรามักจะไปทำให้มันอายุสั้น ไม่ได้ใช้ชีวิตตามอายุไขของมัน กระแสการปล่อยเต่านี่น่าเป็นห่วงมากครับ เพราะว่าคนไทยเชื่อว่า การเอาเต่าไปปล่อย จะทำให้เราอายุยืนยาว เหมือนเต่า แต่ว่าเต่าจะต้องมาแบกรับความทรมานแทนเรานี่ซิ เพราะว่าไม่เคยศึกษาว่าเต่าที่เราเอาไปปล่อยนั้น เป็นเต่าแบบไหน สายพันธุ์อะไร ซื้อมาได้เห็นมีกระดองก็เรียกเต่าหมด เอาเต่าบกไปลอยน้ำ มันก็จมเป็นเรือไททานิคซิครับ เราเคยสังเกตไหมครับว่า เต่าบก กับเต่าน้ำแตกต่างกันอย่างไร?

สมัยก่อนคนไทยหลายครัวเรือน นิยมเลี้ยงเต่าไว้ในบ้าน จุดประสงค์ก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็เป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม น่าหลงไหล เลี้ยงง่ายโตวัย มีพื้นที่ในบ้านสักนิด ก็เลี้ยงเต่าได้ ตามต่างจังหวัดก็นิยมเลี้ยง ให้มันกินผักบุ้ง ผักกาด แตงไท แตงกวา ขนุน น้อยหน่า พุดทรา มังคุด (หลังๆนี่ไม่ใช่ละ) และในธรรมชาติสมัยก่อน เต่านี่ก็เยอะเสียเหลือเกิน ปัจจุบันก็หายไปเยอะเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เต่าเลี้ยง หรือเต่าที่อยู่ตามวัดนะครับ

การเลี้ยงเต่าสวยงาม ก็คือกระแสของกลุ่มคนรักสัตว์แปลก หรือ Exotic Pet (สัตว์เลี้ยงที่ไม่ใช่หมาหรือแมว) เราจะคุ้นเคยกันดีกับการเลี้ยงเต่าญี่ปุ่น ที่เคยเป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง ตัวเขียวๆ มีแก้มสีแดงๆ เราเรียกพวกมันว่า เต่าญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วมันคือเต่าที่มาจากอเมริกา ตามธรรมชาติในรัฐอิลลินอยส์ ตามแม่น้ำมิสซิสซิปปี จนไปถึงอ่าวเม็กซิโก แต่ว่ามีพ่อค้าชาวญี่ปุ่นนำเข้ามาขายในไทย เราก็ไปเหมามันทันทีว่านี่คือเต่าญี่ปุ่น ทั้งๆที่มันพูดญี่ปุ่นไม่ได้ซักนิด และเราก็จะเข้าใจว่ามันจะตัวเล็กๆน่ารักแบบนี้เสมอ แต่ความจริง เต่าญี่ปุ่นตัวโตได้ถึงหนึ่งไม้บรรทัดเลยนะครับ พอมันตัวโต ไม่น่ารักเหมือนเดิม เจ้าของก็มักจะเอาไปปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ กลายเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ สัตว์ต่างถิ่นที่เข้ามารุกรานระบบนิเวศน์ในธรรมชาตินั่นเอง

ล่าสุดก็เปลี่ยนความนิยมมาเป็นเต่าบก หรือ Tortoise ไม่ใช่ Turtle นะครับ เราจะจำแนกเต่าออกเป็นสองจำพวกง่ายๆ คือ เต่าบก (Tortoise) เต่าน้ำ (Turtle) ในบ้านเราเนี่ยมีทั้งเต่าบก และเต่าน้ำ เต่าบกจะอยู่ในป่า ส่วนเต่าน้ำ จะอยู่คลอง หรือตามท้องนา แล้วมันต่างกันอย่างไร?

คนที่อยากเลี้ยงเต่ามักจะไม่ค่อยสนใจความเป็นเต่าของเต่าซักเท่าไหร่ งงมะ? เราก็แค่อยากเลี้ยงเต่า เราไม่สังเกตหรอกว่า มันคือบก หรือ น้ำ เห็นมันมีกระดอง ก็เรียกว่าเต่าทั้งหมด และภาพจำของคนไทย คือมีเต่า ต้องมีน้ำ การเลี้ยงเต่า เราก็มักจะทำบ่อน้ำไว้ให้เต่าเล่นน้ำ บางคนก็เข้าใจ ทำเป็นแค่บ่อตื้นๆ ให้เต่าลงไปเดินได้แต่บางคนหวังดี อยากให้เต่าได้ว่ายน้ำ เอาแบบดำน้ำเล่นไปเลย ไอ้เต่าน้ำมันคงชอบนะครับ แต่ไอ้เต่าบก นี่ ตายอย่างเดียวเลยนะครับพี่ โดยเฉพาะพวกพี่ที่ชอบทำบุญเอาเต่าไปปล่อยตามวัดนะครับ มีสัตว์แพทย์เคยเล่าให้ฟังว่า เอาเต่าบกไปปล่อยในบ่อน้ำวัด เต่าตัวนั้น เป็นอันสิ้นสภาพเต่าไปในทันที…

กลับมาที่เต่าบก ที่กำลังนิยมเลี้ยงในปัจจุบัน มีตั้งเต่าบกตัวเล็ก และเต่าบกขนาดยักษ์ตามความเหมาะสมของกำลังทรัพย์ผู้เลี้ยง ที่ฮิตมากตอนนี้คือเต่าซูลคาต้า มาจากโน้นเลยครับ แอฟริกา เป็นเต่าบกที่มีสีออกไปในทางเหลืองๆอ่อนๆ กระดองมีลายสวยงาม อายุยืนถึง 70ปี มีขนาดใหญ่ได้ถึง 36นิ้ว นี่ก็คือหนึ่งในพันธุ์เต่าบกนะครับ เน้น เต่าบก ไม่ได้ชอบว่ายน้ำหรือดำน้ำแต่อย่างใด ถ้าใครสนใจจะเลี้ยง หรือใครแนะนำให้รู้จักกับน้องซูลคาต้าตัวนี้ อย่าทะลึ่งเอาไปดำน้ำนะครับ สงสารเค้า

เรามีวิธีดูอย่างไรว่าเต่าตัวไหนบก ตัวไหนน้ำ ดูกระดองก่อนเลย เต่าบกจะมีกระดองหนามากกกก และหนักด้วย คือถ้าเอาไปหย่อนน้ำ จะจมในทันทีทันใด ส่วนเต่าน้ำลักษณะกระดองจะโปร่ง บาง และเรียว น้ำหนักจะเบากว่า ถ้าปล่อยลงน้ำ จะลอยได้ แต่ก็ต้องอาศัยการขึ้นมาบนบกเพื่อหายใจอยู่ดี และดูที่เท้าครับ เท้าของเต่าบกจะกลมบ๊อกน่ารัก เป็นลักษณะคล้ายทรงกระบอก มีเล็บหนา และขาเป็นเกล็ด ให้นึกถึงเท้าช้างครับ ลักษณะคล้ายกัน ส่วนเท้าของเต่าน้ำ จะต่างออกไปอย่างชัดเจน เท้าจะแบน เป็นใบพาย มีพังผืดระหว่างนิ้ว และมีเล็กเรียบเล็กแหลมน่ารัก

ถ้าใครคิดจะเลี้ยงเต่า ไม่ว่าจะน้ำ หรือจะแห้ง เห้ย!!! บก ก็ควรดูแลเอาใจใส่ไปตลอดนะครับ สัตว์เหล่านี้ถูกเพาะพันธุ์มาเป็นสัตว์เลี้ยง ถ้าเค้าต้องออกไปเผชิญโลกกว้าง ยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่มีทางที่เขาจะรอดชีวิต หรือว่าถ้ารอดก็คงจะมีแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้น และที่สำคัญถ้ารอดออกไปก็กลายเป็นเอเลี่ยนสปีชี่ย์ ไปทำลายระบบนิเวศน์ให้ยุ่งเหยิง ถ้าจะเลี้ยงก็ต้องเลี้ยงให้ถึงที่สุด และเอาใจใส่มันตลอดไปนะครับ

ส่วนพี่ๆสายบุญทุกท่าน บ้างครั้งการปล่อยสัตว์ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้บุญเสมอไปนะครับ เพราะเราไม่ชอบศึกษาว่าสัต์ที่เราไปปล่อย มันพร้อมที่จะอยู่ในสภาพภูมิประเทศนั้นหรือเปล่า อย่างเช่นปลาซัคเกอร์ที่มักจะเรียกว่าให้ดูงดงามว่าปลาราหู ไปปล่อยราหูออกจากชีวิต คิดได้ไง ปลาพวกนี้ จะไปกัดกินลูกปลาตัวเล็กตามแหล่งน้ำธรรมชาติจนหมด หรือบางทีก็เอาปลาไหลไปปล่อยแม่น้ำ หรือปลาดุกบิ๊กอุยไปลงตามแหล่งน้ำธรรมชาติ ปลาพวกนี้เป็นปลาเลี้ยงทีผิดต่อสภาพแวดล้อมของหนองน้ำนั้น มันก็จะจัดการทำลายระบบนิเวศในแหล่งน้ำนั้นทันที นี่ยังไม่รวมพวกปล่อยนกที่รอคนมาดักจับกลับไปอยู่ในกรงอีกครั้งนะครับ ดูๆแล้วน่าจะเป็นบาปกรรมของคนที่ปล่อยมากกว่า หรือถ้าอยากได้ภาพการทำบุญไปอวดเพื่อนๆ แนะนำให้เลือกทำบุญที่เหตุผลทันตามีตัวเลือกเยอะแยะมากมาย อย่างเช่น เลี้ยงอาหารเด็กๆด้อยโอกาส ทำบุญสมทบทุนโรงพยาบาลเพื่อรักษาผู้ป่วย หรือสงเคราะห์เลี้ยงดูเยาวชนด้อยโอกาสทางการศึกษา แบบนี้น่าจะเข้าท่ากว่านะครับ

ส่วนเรื่องเต่าค่อนข้างเป็นวิกฤตในปัจจุบัน บางวัดมีเต่าล้นวัดเพราะความเชื่อผิดๆของคน และบางวัดเองก็เลือกที่จะเป็นจุดขายทางพุทธพาณิชย์เรียกคนเข้าวัดไม่สนหมีสนเต่าจะเอาแต่เงินปัจจัยอย่างเดียว เราต้องช่วยกันนะครับเพื่อชีวิตที่ดีของเพื่อนร่วมโลกของเรา กบนอกะลาเองก็เคยทำเรื่องเต่ามาเยอะเช่นกัน ซึ่งแต่ละเรื่อง ก็ไม่พ้นความลำบากขอคนที่เฝ้าอนุรักษ์ รักษาดูแล สามารถเข้าไปติดตามได้อย่างเช่นตอนนี้ครับ

Writer

Related Posts

ไม่(รู้)ว่ากระพริบตาหรือหลับ(ตา)

ทำไมปากจู๋ = ลมเย็น ปากอ้า = ลมร้อน

อยากเป็น Influencer ต้องใช้สูตร 3 ป.

ปุ่มรถส่าย เอาไว้ทำอะไร กดดีไหม ?

ค่า FT คืออะไร ?

ไหว้พระจันทร์เสาร์นี้ ต้องเตรียมอะไรบ้าง ?