การพัฒนานโยบายจนถึงการส่งออกทางดนตรี แฟชั่น ไปจนถึงวัฒนธรรมของ K-pop กลายเป็นแนวทางชั้นดีที่หลายๆ ประเทศอยากเดินตาม และประเทศไทยของเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ทั้งทางภาครัฐและเอกชนกำลังเดินหน้า หาแนวทางพัฒนาและกระตุ้นอย่างขะมักเขม้น โดยหวังว่านอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับนักดนตรี ศิลปิน และคนอีกหลายกลุ่มที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังคาดหวังการเติบโตทางเศรษฐกิจระดับประเทศอีกด้วย 

ซึ่งหากมองจากมุมของธุรกิจเป็นหลัก ดนตรีแนว T-Pop จะสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่ ค่ายเพลงขนาดใหญ่ ผู้มีความสามารถในการพัฒนาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงการผลักเข้าสู่ตลาด ต่อมาคือค่ายเพลงขนาดเล็ก ที่เข้มข้นด้วยการพัฒนาศักยภาพและผลงานของศิลปิน และกลุ่มสุดท้ายคือ ศิลปินแนวอิสระ ที่ใช้กำลังและความสามารถของตัวเองในการสร้างสรรค์ผลงานและสร้างการเป็นที่รู้จัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประเทศไทยยังประกอบด้วยคนทำงานแนวดนตรีและศิลปะการแสดงที่หลากหลายมากกว่านั้น ฉะนั้นการนำองค์ความรู้ วัฒนธรรม หรือแม้แต่เครื่องดนตรีท้องถิ่นมาสร้างการเข้าถึง ผสมผสาน ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งของคนฟัง คนดู คนเสพเช่นกัน

ในบทความนี้จึงอยากชวนฟังและรู้จักศิลปิน นักดนตรี ที่มีความสามารถในการเล่นเครื่องดนตรีท้องถิ่น และยังมีการนำองค์ความรู้ เสียงจากท้องถิ่น มาสร้างสรรค์ในแบบของตนเอง

1. อ้น แคนเขียว

ศิลปินสายอีสานผู้มีองค์ความรู้ด้านดนตรีหมอลำและเชี่ยวชาญในหลายด้าน ตั้งแต่การเล่นแคน พิณ ปี่ภูไท จนถึงการทำงานดนตรีผสมผสาน อย่างเพลงอีสานออเคสตร้า “ควายน้อยคอยแม่” บทเพลงที่สื่ออารมณ์ของลูกควายที่รอคอยแม่ควาย สะท้อนภาพวิถีชีวิตชาวนา โดยเพลงนี้ได้มีการพัฒนาการบรรเลงแคนประกอบหมอลำ ประยุกต์เข้ากับวงดนตรีออเคสตร้า โดยให้แคนเป็นเครื่องดนตรีนำ ทำให้เห็นรายละเอียดของลายแคนหมอลำ โดยเฉพาะลูกเอื้อน ลูกอ้อน และลูกคอ

ฟังได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=AhyvTEYip00
ทำนอง : พงศพร อุปนิ
เรียบเรียงดนตรี : จินนี่ ภูไท

2. Fino the Ranad หรือ ปาเจร พัฒนศิริ 

นักดนตรีไทยรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่จับตามอง เนื่องจากความสามารถทางดนตรีไทย โดยเฉพาะเครื่องดนตรีระนาดเอกที่นำมาคัฟเวอร์เพลงต่างๆ ทั้งเพลงไทย สากล เกาหลี ซึ่งฟีโน่เองก็เป็นศิลปินที่นอกจากจะมีทักษะทางดนตรีอยู่ในระดับที่เชี่ยวชาญแล้ว ยังมีความคิดสร้างสรรค์ในการอะเรนจ์ดนตรี พลิกแพลง ดึงคาแรกเตอร์ของสำเนียงระนาดเอกและเพลงที่คัฟเวอร์อีกด้วย จากความสามารถนี้ทำให้ภาพและเสียงของดนตรีไทยถูกมองด้วยมุมใหม่ ทุกเพลงของฟีโน่ช่างจัดจ้าน สนุกสนาน ฟังเพลิน จึงไม่แปลกที่ตอนนี้กำลังเติบโตเป็นอินฟลูเอนเซอร์สายดนตรีที่มียอดวิวหลักล้าน 

ฟังเพลงได้ที่ : https://www.youtube.com/c/FinotheRanad/videos

3. ดิปุ๊นุ นักดนตรีชาวปกาเกอะญอ 

ที่เรียนรู้การเล่นเครื่องดนตรีเตหน่ากูมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเพลงที่ดิปุ๊นุทำขึ้นนั้น เป็นการนำเครื่องดนตรีประจำกลุ่มปกาเกอะญอมาสร้างสรรค์ใหม่ ผสมผสานกับการเรียบเรียงเพลงป๊อป ทำให้ฟังง่าย ซึ่งเพลงของเขาก็มีเนื้อหาที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งเพลงรัก เพลงจีบสาว เพลงเพื่อชีวิต เพลงด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งการผสมผสานแนวคิดและวิถีชีวิต บวกกับการสร้างสรรค์ทางดนตรีด้วยเตหน่ากู ถือเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจ และนอกจากดิปุ๊นุแล้ว ก็ยังมีนักดนตรีในกลุ่มนี้อีกหลายคนที่น่าลองหาฟังกัน ไม่ว่าจะเป็น ขยะลอแอะ คลีโพ อ.ชิ สุวิชาน พัฒนาไพรวัลย์ ฯลฯ


โดยเพลงที่อยากชวนฟัง เป็นการนำเตหน่ากูผสมกับจังหวะฮิปฮอป
เพลงเทอเนอระเทอ : https://www.youtube.com/watch?v=JhwCD58xM7s

4. เครื่องดนตรียะฮองของกลุ่มมานิ

เปลี่ยนจากศิลปิน มาเป็นเครื่องดนตรีของกลุ่มมานิกันบ้าง เครื่องดนตรีนี้ชื่อว่า ยะฮอง เป็นเครื่องดนตรีที่ทำจากไม้ไผ่ (ที่หาได้ในป่า) นำมาฝานให้เป็นแผ่นบางๆ และเซาะร่องด้านในให้บางลงกลายเป็นซี่ พร้อมกับร้อยเชือกด้านข้างใช้ดึงให้เกิดเสียง เครื่องดนตรียะฮองอาจจะดูแปลกตาและเสียงแปลกหู แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เครื่องดนตรีที่มีความจำเพาะเป็นพิเศษ เพราะเครื่องดนตรีนี้มีอยู่ทั่วโลก แล้วแต่ว่าพื้นที่ไหนเรียกชื่อว่าอะไร อย่างต่างประเทศจะเรียกว่า Jaw harp ที่ทำขึ้นด้วยโลหะ โดยการกำเนิดเสียงจะมาจากการดีด และโทนเสียงที่เกิดขึ้นนั้นจะเปลี่ยนไปตามรูปปาก ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีที่พูดน้อย แต่มีโทนเสียงที่น่าสนใจ และนอกจากกลุ่มมานิเอง ก็มีศิลปินทั่วโลกที่ใช้เครื่องดนตรีนี้เป็นเครื่องดนตรีหลักในการสร้างสรรค์เพลง เช่น นำ jaw harp ผสมผสานกับซินธีไซเซอร์กลายเป็นเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ หรือการเล่นเดี่ยวๆ ประกอบด้วยเครื่องดนตรีอื่นๆ ก็ทำได้เช่นกัน
เพลงที่อยากชวนฟังนี้ เป็นเพียงจากเครื่องยะฮอง พร้อมคำร้องที่เล่าถึงเสือที่ล่าสัตว์ โดยนักดนตรีชาวมานิ ซึ่งเป็นเพลงที่คุณพ่อมักร้องให้เด็กฟังในยามป่วยไข้ เป็นดนตรีเพื่อการเยียวยาจิตใจและร่างกาย 

ฟังได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=eMPMWRhbULQ&list=PLYHjTQe3PCIXgu8W-8xjMexr3w1Ke0P7y&index=5

5. เพลงสุดท้าย เป็นการสร้างสรรค์ดนตรีแนว New Age

โดยการนำเสียงน้ำในลำธาร ใบหญ้า ต้นไม้ ลม หินมาสร้างสรรค์เป็นเพลงใหม่ โดยได้แรงบันดาลใจจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนกะเหรี่ยงโปว์  หมู่บ้านสะเนพ่อง จ.กาญจนบุรี ซึ่งคนในชุมชนมีความใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก และสะท้อนผ่านวิถีในการดูแลป่าไม้ ลำธาร การหาอาหารและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงแหล่งลำธารนี้ยังเป็นที่รวมใจของคนในชุมชน 

ฟังได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=BxcjpjYPb5g

จาก 5 ตัวอย่างศิลปิน ดนตรี เสียงเพลงต่างๆ จะเห็นได้ว่าประเทศไทยอุดมไปด้วยผู้ที่มีความสามารถ องค์ความรู้ที่โดดเด่น เครื่องดนตรีที่น่าสนใจ ซึ่งถือเป็นศักยภาพการแข่งขันเป็นอย่างมาก เพราะไม่ใช่ทุกที่จะมีของดีๆ อย่างบ้านเรา ทั้งนี้ T-pop ในอนาคตของประเทศไทยอาจไม่จำกัดเพียงแค่ดนตรีแนวเพลงป๊อปหรือดนตรีแนวกระแสนิยมเพียงอย่างเดียว แต่อาจหมายถึงเราในฐานะคนฟัง สามารถเข้าถึงดนตรีหลากหลายแนว จากความสามารถของศิลปินหลายกลุ่มได้หลากหลายขึ้น ซึ่งการสนับสนุนเหล่านี้จะเป็นทั้งแรงส่งและแรงผลักดันให้งานดีๆ ของคนไทยเดินหน้าต่อไปได้เช่นกัน

เรื่อง : ศิรษา บุญมา Hear & Found
ภาพ : ศิรษา บุญมา, อ้น แคนเขียว https://www.facebook.com/media/set/set=a.1552088235046227&type=3
ฟีโน่ เดอะระนาด https://www.youtube.com/finotheranad

Writer

Related Posts

ความบันเทิงในจอภาพยนตร์ไทยไม่ได้แร้นแค้นภูมิปัญญาอย่างที่เรารับรู้กัน!

ความบันเทิงในจอภาพยนตร์ไทยไม่ได้แร้นแค้นภูมิปัญญาอย่างที่เรารับรู้กัน!

ปัจจัยความสำเร็จและบทเรียนจากเซลล์มะเร็ง

กระแส NFT แจ้งเกิดอาชีพ Creator สู่วงการเมทาเวิร์ส

เมื่อ “คนนอก” เริ่มเห็นหัวใจของ Sex Worker

“ไจเดียว” ไหมพรมและเส้นด้ายย้อมมือที่ไม่มีไจไหนเหมือนกันเลยของ Manos del Uruguay องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ยืนระยะมาถึง 54 ปี

วันยกย่องแมวดำ